เสริมขมับ (Temporal Augmentation)

แก้ขมับตอบ หรือ ปรับรูปหน้า ด้วยการเสริมขมับด้วยซิลิโคน

✅เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาขมับตอบ หรือขมับยุบ ขมับบุ๋ม หรือ รูปหน้าบางส่วนขาดหายไป หรือ รูปหน้าไม่สมมาตร ในปัจจุบันสามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมเต็มด้วยซิลิโคนสำเร็จรูป

✅ในอดีตการเสริมขมับมักไม่ได้ใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปเพราะยังไม่มีผลิตขึ้นมา แต่ในปัจจุบันมีการผลิตซิลิโคนสำเร็จรูป ทำให้การผ่าตัดได้ง่ายและเร็ว จบปัญหาจากการที่ต้องคอยเติมฟิลเลอร์อยู่บ่อย ๆ 🎉🎉

✅มีข้อดี คือ ถ้าไม่พอใจ หรือ ต้องการปรับใหม่ ก็สามารถผ่าตัดเอาออกได้ทั้งหมด และแผลเป็นก็ซ่อนไว้ที่ขอบไรผม มองเห็นไม่ชัด หรือ แทบสังเกตไม่พบเลย ก่อให้เกิดอาการบวมได้น้อย ไม่เกิดปัญหาการไหล หรือ ย้ายที่เหมือนการฉีดสารเติมขมับ 😵‍💫

ศัลยแพทย์มีดีคลินิกฯ ใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปแบรนด์ Misti by Keosan มีหลากหลายขนาดและหลากหลายรูปทรงให้ศัลยแพทย์ได้เลือกใช้ อีกทั้ง การเหลาและการออกแบบซิลิโคนให้เข้ากับรูปหน้าและรูปกะโหลกศีรษะก็ยังทำได้เนี๊ยบ เรียบเนียน ไม่มีรอยต่อ เพราะออกแบบเป็นพิเศษให้เข้ากับรูปกะโหลกศีรษะ โดยแพทย์ผู้ออกแบบเป็นคุณหมอผ่าตัดสมอง 🧠

🔷ข้อมูลความรู้ทั่วไป

ส่วนประกอบของกะโหลกศีรษะส่วนด้านข้าง หรือ ที่เรียกว่า เทมโพรัล (Temporal) หรือ “ขมับ” เป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อความสวยงามของรูปศีรษะและใบหน้า สำหรับคนที่ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ขมับบุ๋ม หน้าผากแบน หรือ แม้แต่ในคนไข้ที่เคยผ่านการผ่าตัดกะโหลกศีรษะเพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วยทางสมอง อาจจะมีหลงเหลือร่องรอยความไม่สวยงามหรือรอยบุ๋มของขมับ ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยงานศัลยกรรมเสริมขมับ เพื่อช่วยเติมเต็มกะโหลกศีรษะส่วนขมับให้สวยงาม โหงวเฮ้งใบหน้าได้รูปและสมมาตรมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเสริมซิลิโคนหน้าขมับยังช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน ให้ดูมีมิติขึ้นรับกับรูปหน้าและสันจมูกให้มีความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ

🔷วิธีการเสริมขมับมีทางเลือก ดังนี้

1. ฉีดสารเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์

การฉีดเติมเต็มฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการเสริมขมับ เนื่องจากฉีดแล้วเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องผ่าตัด หรือพักฟื้น ฟิลเลอร์เป็นสารที่เลียนแบบธรรมชาติที่มีชื่อว่า ไฮยาลูโรนิคแอซิด เพื่อเติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง ให้ดูอิ่มน้ำเต่งตึง ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้เพียงระยะสั้นประมาณ 6 – 12 เดือน ก็จะสลายไปเอง แต่ถ้าหากเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน จะไม่สามารถสลายได้เอง อาจเกิดการอักเสบ หรือมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาภายหลัง ซึ่งอาจทำให้ต้องขูดออกได้ในอนาคต

2. การฉีดไขมัน

การฉีดไขมันที่หน้าผาก เป็นการดูดไขมันจากส่วนอื่นในร่างกายของคนไข้ มาฉีดเติบบริเวณหน้าผาก หรือขมับ การฉีดไขมันจะเกิดอาการแพ้ได้น้อย เนื่องจากใช้ไขมันในร่างกายของตนเอง โดยจะใช้วิธีการฉีดปริมาณน้อย ๆ เพื่อให้ไขมันกระจายไปทั่วบริเวณเนื้อเยื่อทุกชั้น ทำให้ไขมันเข้าไปเติมเต็มบริเวณร่องลึก หรือหน้าผากแบนให้นูนขึ้นมาได้ แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นดูแลตัวเอง เพราะมีแผลเพิ่มมาหนึ่งจุด บริเวณที่ดูดไขมัน ผลลัพธ์ของการฉีดไขมันสามารถอยู่ได้ระยะยาว ไขมันที่ฉีดเข้าไปหลังจาก 6 เดือนผ่านไป สามารถอยู่ได้อย่างถาวร แต่ถ้าหากเทคนิคการฉีดไม่ดีอาจจะต้องฉีดซ้ำหลายรอบ

3. การผ่าตัดเสริมขมับด้วยซิลิโคน

การเสริมขมับด้วยแผ่นซิลิโคน เป็นการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยศัลยแพทย์จะประเมินเลือกขนาดซิลิโคนตามความเหมาะสม และความต้องการของคนไข้ ซึ่งแผลผ่าตัดจะอยู่บริณเหนือใบหู จะซ่อนแผลไว้ในไรผม เพื่อไม่ให้มีการทิ้งแผลไว้บริเวณใบหน้า ผลลัพธ์ของการเสริมขมับด้วยแผ่นซิลิโคนสามารถอยู่ได้อย่างถาวรโดยไม่มีการยุบในอนาคต พบอาการแทรกซ้อนได้น้อยกว่าการฉีดสารเติมเต็ม มีอาการบวมน้อยกว่าการฉีด และหากไม่ชอบสามารถผ่าตัดออกได้ทั้งหมดโดยไม่ทิ้งสิ่งตกค้างใด ๆ

🔷ขั้นตอนการทำศัลยกรรมเสริมขมับ

  1. ภายหลังการออกแบบร่วมกับผู้รับบริการแล้ว แพทย์จะเริ่มฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการผ่าตัด
  2. แพทย์เปิดแผลผ่าตัดบริเวณศีรษะ ห่างจากไรผมประมาณ 1 – 2 ซม. เปิดแผลยาว 2 – 3 ซม. เพื่อใส่แผ่นซิลิโคนที่ใช้เสริมขมับ
  3. ใส่ซิลิโคนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ และจัดรูปทรงให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสม
  4. ทำการเย็บปิดแผลด้วยไหมขนาดเล็ก โดยไม่มีการโกนผม

หลังการผ่าตัดเสร็จคนไข้สามารถกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องพักค้างคืน

🔷 วิธีการปฏิบัติตัวก่อนผ่าตัด

1. แจ้งโรคประจำตัว ประวัติการรักษา และประวัติการแพ้ยาให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัด
2. สระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันเข้ารับการผ่าตัด งดแต่งหน้าในวันที่ผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
3. งดวิตามินและอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของน้ำมันทุกชนิด ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากจะส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
4. งดใส่เครื่องประดับ ต่างหู สร้อย แหวนต่าง ๆ บนร่างกาย และงดใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด หากมีปัญหาสายตาให้สวมแว่นแทน
5. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ก่อนการเข้ารับการผ่าตัดอย่าง 4 สัปดาห์ เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่และแอลกอฮอล์มีผลต่อปริมาณออกซิเจนในเลือด ส่งผลให้แผลหายช้า และเสี่ยงติดเชื้อได้

🔷 วิธีการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด

1. ประคบเย็นด้วยเจลเย็น บริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัดประมาณ 1 – 3 วัน
2. ใช้สายรัดหน้าและศีรษะไว้ ติดต่อกัน 3 วัน เพื่อป้องการกระทบกระเทือนบริเวณแผลผ่าตัด
3. นอนยกศีรษะสูง อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยลดอาการบวม และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
4. สระผมได้หลังจากตัดไหมแล้วและแผลแห้งดี
5. งดการทำกิจกรรมที่กระทบกระเทือนบริเวณแผลผ่าตัด เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก การวิ่ง เพื่อป้องกันการผิดสัดส่วนของขมับ หลังการผ่าตัด 2 สัปดาห์ หากมีรอยเขียวช้ำบริเวณแผลผ่าตัด สามารถประคบอุ่นได้ประมาณวันละ 2 ครั้ง

เสริมขมับที่มีดีคลินิก โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการออกแบบรูปร่างของกะโหลกศีรษะและงานผ่าตัดกะโหลกศีรษะ ภายใต้การบริหารงานโดย นายแพทย์สมคริต ศรีพลแท่น ประสาทศัลยแพทย์ โรงพยาบาลมหาสารคาม

#KEOSAN #MISTI #TemplesImplant #ซิลิโคนขมับ #เสริมขมับด้วยซิลิโคน #เสริมขมับ #TemporalAugmentation