ผ่าตัดเสริมคาง หรือ ศัลยกรรมเสริมคาง เป็นการเสริมแต่งใบหน้าให้สมส่วน กลมกลืน ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มีคางสั้น คางตัด คางเล็กหรือใหญ่เกินไป ให้กลับมาได้รูปทรงสวยงาม เป็นการปรับแต่งโครงสร้างใบหน้าให้เรียวยาวสวยงามได้รูป จึงเป็นการปรับโหงวเฮ้งของใบหน้าให้ได้แนวเส้นโค้งที่เหมาะสมและลงตัว ช่วยเติมเต็มใบหน้าให้มีมิติสวยงามอย่างสมบูรณ์แบบเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น
วัสดุที่ใช้ในการเสริมคาง คือ “ซิลิโคนเสริมคาง” เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ทางการแพทย์ได้รับการรับรองแล้วว่าไม่มีอันตรายต่อร่างกายเหมาะสำหรับใช้ในงานผ่าตัดศัลยกรรมความงาม
วิธีการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมคาง
- ควรรับประทานอาหารอาหารตามปกติ ไม่ควรอดอาหาร
- งดยาจำพวกสเตียรอยด์และอาหารเสริมต่างๆ
- ทำความสะอาดช่องปาก แปรงฟันและบ้วนปากให้เรียบร้อย
- แจ้งรายละเอียดการใช้ยาและอาหารเสริมต่างๆ ที่รับประทานอยู่ให้แพทย์ทราบ
- แพทย์จะทำการตรวจวัดเค้าโครงหน้า เพื่อเลือกตำแหน่งและขนาดของซิลิโคนที่เหมาะสมเข้ากับใบหน้า
- หลังจากตรวจเค้าโครงหน้าแล้ว แพทย์จะทำการเหลาซิลิโคนตามขนาดที่เหมาะสมเพื่อให้เข้ากับรูปหน้า และวาดเส้นเพื่อกำหนดตำแหน่งที่ชัดเจนก่อนทำการผ่าตัด
- อาจให้ยานอนหลับที่มีฤทธิ์สั้นๆ หรือฉีดยาชาเฉพาะที่ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ แล้วทำการทำการเปิดแผลภายในช่องปากและทำการใส่ซิลิโคนที่เตรียมไว้ในตำแหน่งที่กำหนด เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเย็บปิดแผล
- ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง
การดูแลหลังผ่าตัดเสริมคาง
- ประคบเย็นบริเวณคางบ่อยๆ ในช่วงเวลา 2 วันแรก หรือ จนกว่าจะยุบบวม
- นอนศีรษะสูง 2 วัน สามารถนอนตะแคงศีรษะได้ แต่ให้ระมัดระวังเวลายิ้ม ระวังไม่หัวเราะหรืออย่ายิ้มกว้างมากในช่วงแรก
- งดรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัดหรือแข็งมากที่ต้องใช้แรงในการเคี้ยว
- ดื่มน้ำโดยใช้หลอดและหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรืออาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไป
- ควรล้างผักผลไม้สดที่นำมารับประทานให้สะอาด
- ไม่ควรกินปลาดิบหรือเนื้อที่ไม่สุกหรืออาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้มาก
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกฮอล์ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
- งดการสูบบุหรี่ 3 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
- ดื่มน้ำมากๆ บ้วนปากบ่อยๆ ด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดหรือน้ำยาบ้วนปาก
- อย่าใช้ลิ้นดุนหรือใช้มือดึงไหมที่เย็บแผลในปาก
- ทำกิจวัตรประจำวันที่ไม่หนักได้ตามปกติ งดออกกำลังกายหนัก 10 วัน
- ระวังการกระแทกบริเวณคางหรือนั่งค้ำคางหรือดันคาง
- ควรปฎิบัติตามคำแนะนำ รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และมาพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามอาการและประเมินผล