เสริมหน้าอก
(Breast Augmentation)
บุคลิกภาพและความสวยงามแห่งสตรีเพศ คือ การเปิดโอกาสความสำเร็จใหม่ ๆ ที่ดีขึ้น ความสวยงามของหน้าตา ต้องมาพร้อมกับการมีรูปทรงของหน้าอกที่อวบอิ่ม ได้รูปและขนาดใหญ่พอเหมาะกับรูปร่าง จึงจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดูดีขึ้นไปอีกขั้น การมีหน้าอกที่ใหญ่สมส่วน นอกจากเพื่อการสวมใส่เสื้อผ้าที่งดงามแล้ว ยังช่วยสร้างเสน่ห์ที่ดึงดูดใจได้มากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคสมัยที่ต้องใช้ความสวยงามนำความสำเร็จทางธุรกิจ หลาย ๆ ธุรกิจ ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยเกื้อหนุนที่สำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของคุณ
ศัลยกรรมความงาม “เสริมหน้าอก” จึงเป็นทางเลือกของการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับการอัพเกรดรูปร่าง บุคลิกภาพและความมั่นใจของตนเอง
ซิลิโคนเสริมมีกี่แบบ ?
การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนรูปทรงต่าง ๆ ผู้รับบริการอาจศึกษาและเลือกรูปทรงที่ตนเองชอบมาก่อนแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีดีคลินิกจะเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเพิ่มเติมในรายละเอียด รูปทรงของซิลิโคนเสริมหน้าอก มีดังนี้
ซิลิโคนรูปทรงกลม (Round Implant) เหมาะกับคนที่มีเนื้อบริเวณหน้าอกเล็กน้อยและต้องการความนูนของเนินอกมาก ๆ ช่วยทำให้เนินอกด้านบนใหญ่และโดดเด่นกว่าซิลิโคนทรงหยดน้ำ
ซิลิโคนรูปทรงหยดน้ำ (Tear drop) เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการเสริมหน้าอกให้ดูใหญ่มากนัก แต่ต้องการเพิ่มความนูนของเนินด้านบนหน้าอกให้น้อยกว่าแบบทรงกลม ทำให้หน้าอกแลดูเป็นธรรมชาติคล้ายธรรมชาติหน้าอกของคนเอเชีย
วิธีเลือกซิลิโคน
การเลือกซิลิโคนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยศัลยแพทย์จะใช้ข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และแนะนำในการเลือกชนิดและขนาดซิลิโคนที่เหมาะสม ได้แก่
- ขนาดความสูงและความกว้างของลำตัว
- ลักษณะของเนื้อหน้าอกเดิม เช่น ความหย่อนคล้อย ความหนาของผิวหนัง และไขมันบริเวณหน้าอก
เทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอก
การผ่าตัดเสริมหน้าอกสามารถเลือกบริเวณของแผลผ่าตัดที่จะใช้ในการใส่ซิลิโคนได้ ประกอบไปด้วย
- ใต้ราวนม การผ่าตัดแผลใต้ราวนมสามารถจัดวางตำแหน่งได้ถูกต้อง เสียเลือดน้อย และฟื้นตัวรวดเร็ว รวมทั้งใช้เป็นแผลผ่าตัดหลักในกรณีที่ทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนซิลิโคน
- ใต้รักแร้หรือรอบปานนม การผ่าตัดแผลใต้รักแร้และบริเวณหัวนมจะทำได้ยากกว่า มีการช้ำและเสียเลือดมากกว่า การพักฟื้นใช้เวลานานกว่า
ตำแหน่งการวางซิลิโคน
โดยทั่วไปตำแหน่งในการวางซิลิโคนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อหรือใต้เนื้อหน้าอก ซึ่งศัลยแพทย์จะแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมกับแต่ละคน โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
- ความหนาของเนื้อบริเวณหน้าอก
- ความหย่อนคล้อยของหน้าอก
- ลักษณะของทรวงอก
เตรียมตัวก่อนเสริมเต้านม
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมเต้านม ได้แก่
- ตรวจร่างกาย
- ตรวจเลือด
- เอกซเรย์ปอด
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจตามเกณฑ์
- งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนมาผ่าตัด
- หยุดยาที่รับประทานบางชนิดก่อนการผ่าตัด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามิน หรือสมุนไพร
- หยุดสูบบุหรี่และหยุดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
กระบวนการเสริมหน้าอก
กระบวนการเสริมเต้านมจะทำเป็นขั้นตอน ได้แก่
- วิสัญญีแพทย์ให้การดมยาสลบก่อนเริ่มการผ่าตัด
- ศัลยแพทย์จะเริ่มทำการผ่าตัดตามที่ได้วางแผนกับผู้มารับการเสริมหน้าอก โดยทำการเลาะช่องบริเวณหน้าอก ใส่ซิลิโคน และเย็บปิดแผล
- การผ่าตัดเสริมหน้าอกใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังเสริมหน้าอก
ภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการเสริมเต้านม ได้แก่
- ปวด
- บวม
- แผลอักเสบ ติดเชื้อ
- มีน้ำเหลืองหรือเลือดออกจากแผลผ่าตัด
- คลำได้ก้อนบริเวณหน้าอก
- ผลข้างเคียงจากยาสลบ ยาแก้ปวด เช่น คลื่นไส้ อาเจียน
- ผลระยะยาวจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเกิดพังผืดหดรัด การเคลื่อนตำแหน่งของซิลิโคน การหย่อนคล้อยของหน้าอก รวมทั้งการผิดรูป เช่น แข็งตัวหรือเสียรูปทรง หรือการแตกของถุงซิลิโคน
การดูแลหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
การดูแลหลังเสริมเต้านม ประกอบไปด้วย
- การดูแลแผลผ่าตัด ในช่วงสัปดาห์แรกสามารถอาบน้ำได้ เนื่องจากแพทย์จะทำการปิดฟิล์มกันน้ำ แต่หลีกเลี่ยงการลงไปแช่ในน้ำหรือว่ายน้ำในสระ หลังจากพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กและแผลหายดีแล้วจะมีการแนะนำให้ใช้ครีมทาแผลเป็นหรือแผ่นซิลิโคนปิดแผลเป็น
- การดูแลหน้าอกหลังใส่ซิลิโคน แนะนำให้ใส่บราชนิดไม่มีโครงอย่างน้อย 1 เดือน หลีกเลี่ยงการกดทับหรือกระแทกบริเวณหน้าอก และการออกกำลังกายที่ใช้แขนมากในช่วง 1 เดือนแรก
- การดูแลอื่น ๆ ได้แก่ งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ รวมทั้งของหมักดอง อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- การดูแลในระยะยาว หมั่นตรวจเช็กหน้าอกด้วยตัวเองและตรวจแมมโมแกรมตามกำหนด
อายุกับการเสริมหน้าอก
ในแต่ละช่วงอายุลักษณะของหน้าอกจะแตกต่างกัน การเสริมหน้าอกในช่วงอายุน้อยและก่อนมีบุตรจะช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว หน้าอกค่อนข้างกระชับ หย่อนคล้อยช้า แต่มีความตึงสูง และอาจใช้เวลาในช่วงระยะแรกก่อนที่รูปทรงจะเข้าที่ ส่วนการเสริมหน้าอกในช่วงที่อายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังมีบุตร หน้าอกจะมีการขยายตัวมาบ้างแล้ว และมีความยืดหยุ่น ทำให้รูปทรงเข้าที่ได้เร็ว แต่ก็อาจทำให้มีการหย่อนคล้อยเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะบางรายที่หน้าอกเดิมมีการหย่อนคล้อยมากอาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดยกกระชับไปด้วย ซึ่งสามารถขอรับคำปรึกษาจากคุณหมอเกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอกในแต่ละแบบอย่างเหมาะสม
โดยทีมแพทย์มีดีคลินิก ศัลยกรรมความงามภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
“ปลดล๊อคความมั่นใจแห่งสรีระและความสวยงาม ที่…มีดีคลินิก”
#ศัลยกรรมความงาม #เสริมหน้าอก #mentor #motiva #ศัลยกรรมหน้าอก #ตาสองชั้น #เสริมจมูก #ตัดถุงใต้ตา