แม้จะอยู่ในช่วงหน้าฝน แต่แสงแดดที่จัดจ้านก็สามารถทำให้เราเกิด ปัญหาผิว ได้ด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้น รีบมาเตรียมรับมือเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อผิวสวย สุขภาพดี อย่างยาวนานกันค่ะ
หัวข้อย่อย
1. ผิวเบิร์นจากแดดเผา
เมื่อต้องอยู่กลางแดดนานๆ อาจทำให้ผิวเบิร์นหรือผิวไหม้แดด บวมแดง พุพอง ควรรีบบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น โบกว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) เพราะมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น และช่วยให้ผิวเย็นสบาย แต่ถ้าหากไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรักษาอย่างถูกวิธีต่อไปค่ะ
2. อาการผดผื่นคัน
เกิดจากอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้เหงื่อออกมาก ทำให้รูขุมขนอักเสบและระคายเคืองเป็นตุ่มแดง ๆ ฉะนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแดดร้อน หรือสวมใส่เสื้อผ้าโปร่ง ๆ โล่งสบาย เพื่อถ่ายเทความร้อน พยายามอย่าแกะ เกา เพราะอาการคันอาจลุกลามได้
3. ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส
เนื่องจากเป็นฤดูที่ฟ้าโปร่ง ทำให้แสงหรือรังสี UV ตกลงมาด้วยความเข้มข้นที่มากกว่า ควรหลีกเลี่ยงการเจอกับแสงแดดโดยตรง และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาผิวหมองคล้ำ ส่วนค่า “SPF30” และ “PA+++” ก็นับว่าเป็นค่าในการป้องกันแสงยูวี ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลแล้วว่าสามารถป้องกันผิวไหม้แดดจากรังสี UVB แตกต่างจาก SPF 50 เพียง 1% เท่านั้น
4. เหงื่อออกเยอะ ผิวมัน เป็นสิว
อากาศร้อนส่งผลให้ผิวขับน้ำมันออกมามากขึ้น ทั้งยังมีสิ่งสกปรกอื่น ๆ จึงทำให้เกิดสิวได้ง่าย ควรล้างหน้าให้สะอาด แต่ไม่ควรล้างบ่อยจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้หน้าแห้ง และยิ่งกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันเพิ่ม ควรเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิด “เจลหรือโลชั่น” แทน เพราะมีส่วนประกอบของน้ำมากกว่าน้ำมัน ทำให้มีความรู้สึกบางเบา ไม่เหนอะหนะ ไม่เพิ่มน้ำมันบนใบหน้า
5. ปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ
เนื่องจากน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญ 2 ใน 3 ของร่างกาย โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน ร่างกายสูญเสียเหงื่อมาก หากดื่มน้ำน้อยเกินไป จะทำให้ผิวแห้ง หมองคล้ำ และมีความมันบนใบหน้าร่วมดด้วย จึงควรดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร โดยการดื่มชั่วโมงละ 2-3 แก้ว จะช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งได้
6. รูขุมขนกว้างขึ้น
ยิ่งในหน้าร้อน รูขุมขนก็จะยิ่งขยายกว้างขึ้น เพื่อระบายความร้อนออกมา ควรดูแลผิวหน้าให้อยู่ในภาวะสมดุล โดยการให้ความชุ่มชื้น และมีความมันตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่ทำร้ายผิวอย่างรุนแรง